AIS Trip "ย่างกุ้ง-พุกาม-มัณฑะเลย์"
ประสบการณ์เที่ยวสุดพิเศษ เฉพาะลูกค้าเอไอเอส ตอน 1

ตามรอยเส้นทางแห่งพุทธศรัทธา ย่างกุ้ง – พุกาม – มัณฑะเลย์
ออกเดินทางวันที่ 30 เมษายน - 03 พฤษภาคม 2559

ลุงเด้ง ป้าไก่ ได้รับเชิญให้ร่วมเปิดประสบการณ์สุดพิเศษกับ AIS Trip "ย่างกุ้ง-พุกาม-มัณฑะเลย์" ดินแดนแห่งศรัทธา และมหาเจดีย์ 4,000 องค์  โดยมี อ. เผ่าทอง ทองเจือ กูรูด้านประวัติศาสตร์ มาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวและความรู้ตลอดการเ­ดินทาง  อาหารทุกมื้อก็จัดเตรียมมาเป็นพิเศษ โรงแรมที่พักที่ดีที่สุดในแต่ละเมือง เรียกได้ว่างานนี้ลูกค้าเอไอเอส ประทับใจกันทุกคน

Day 01 : ลุงเด้ง ป้าไก่ เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิเวลา 6.30 น.  (เราควรไปถึงสนามบินก่อนเครื่องออก 2-3 ชั่วโมง) ครั้งนี้เราเดินทางด้วยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ PG 701 เพื่อนๆ AIS Serenade Platinum สามารถเข้าใช้บริการ Bangkok Airways Blue Ribbon Club Lounge  ได้ฟรี เราสามารถมานั่งพักผ่อนระหว่างรอขึ้นเครื่อง ที่นี่มีทั้งอาหารร้อน หลายรายการให้เลือกจากเมนู ขนม ของว่าง ชา กาแฟ และอื่นๆ อีกมากมาย

มื้อเช้าของวันนี้ ลุงเด้งเลือก แกงฮังเลไก่ พร้อมข้าวกล้องและข้าวหอมมะลิ ป้าไก่เลือก ปลาดอลลี่ทอดตะไคร้และข้าวผัดน้ำพริกอ่อง

ตามด้วยข้าวต้มกระดูกหมู และ เกี๊ยวกุ้ง ในเมนูยังมีอาหารให้เลือกสั่งมากกว่านี้นะครับ แต่ไม่ไหวแล้ว เพราะระหว่างเดินทางก็มีบริการเสิร์ฟอาหารบนเครื่องด้วยนะซิครับ และที่ขาดไม่ได้คือ ข้าวต้มมัด และขนมใส่ไส้ อร่อยเป็นที่สุด

ลูกค้าเอไอเอส เซเรเนด รับบริการ วีไอพี เช็คอิน บิสซิเนส คลาส (Blue Ribbon Counter) พร้อมผู้ติดตาม 1 ท่าน เมื่อเดินทางกับสายการบินบางกอกแอร์เวย์

วิธีการรับสิทธิ์ : ลูกค้าเซเรเนดแสดงโทรศัพท์มือถือ ณ วีไอพี เช็คอิน บิสซิเนส คลาส ที่สนามบินสุวรรณภูมิ,สนามบินสมุย และ สนามบินเชียงใหม่

เวลาประมาณ 08.50 เราออกเดินทางไป เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า ด้วย สายการบินบางกอกแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ PG 701  ใช้เวลาบินแค่ 50 นาที เครื่องก็ลงจอดที่สนามบินย่างกุ้งแล้วครับ

ที่นั่งของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ ค่อนข้างนั่งสบาย ให้บริการแบบ Full Service

ภายในระยะเวลา 50 นาที สามารถบริการผ้าเช็ดมือ อาหาร เครื่องดื่ม น้ำผลไม้ น้ำอัดลม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และไวน์ มีครบ ได้ทันเวลา นับว่าเป็นการบริการที่ยอดเยี่ยมมากครับ - เหมือนขึ้นไปนั่งกินข้าว ชมวิวนอกหน้าต่าง กินเสร็จแล้วก็เตรียมตัวลงจอด 555

ทริปนี้ใช้รถบัส 2 คัน ลุงเด้ง ป้าไก่ อยู่บัสหมายเลข 1

ตลอดวันทีมงานจาก AIS แจกผ้าเย็น กระดาษเปียก ขนมขบเคี้ยว น้ำเย็น ให้ทุกครั้งที่มีการขึ้นรถ เรียกได้ว่าดูแลกันแบบ AIS LIVE 360 องศากันเลย

ไกด์ท้องถิ่น ทาง AIS เลือกแล้วว่าต้องเป็นไกด์คุณภาพ พูดไทยได้ชัดเจน อัทธยาศัยดี ดูแลลูกทัวร์ได้เป็นอย่างดี

และบุคคลสำคัญที่สุดที่ทำให้การเดินทางในครั้งนี้เต็มไปด้วยความรู้ด้านประวัติศาสตร์ เรื่องราว ที่มาของสถานที่สำคัญต่างๆ  คือ อ. เผ่าทอง ทองเจือ กูรูด้านประวัติศาสตร์ มาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวและความรู้ตลอดการเ­ดินทาง คือเล่าได้เป็นฉากๆ ฟังสนุก เหมือนมีคนมาเล่านิทานให้ฟัง เพลินมาก ได้ความรู้สุดๆ รายละเอียดยิบๆ เจาะลึกจริงๆ

ตามหมายกำหนดการ เราจะต้องไปกินอาหารกลางวันที่ ภัตตาคาร Royal Garden แต่พอมีเวลาก็เลยเพิ่มโปรแกรมให้เราไปดู ช้างเผือก ของพม่ากันก่อนครับ

ช้างเผือก มีคชลักษณะ 7 ประการ คือ ตาขาว เพดานขาว เล็บขาว ขนขาว พื้นหนังขาวหรือสีคล้ายหม้อใหม่ ขนหางขาว อัณฑโกศขาวหรือคล้ายสีหม้อใหม่ (สีชมพูแกมเทา)

ได้เวลาอาหารกลางวัน มื้อแรกของทริป เรามาที่ภัตตาคาร Royal Garden มื้อนี้จัดเต็ม และจัดหนักมากๆ กุ้งมังกรตัวใหญ่ นึ่งกระเทียม (แบบกวางตุ้ง) / กัั้งทอดกระเทียมพริกไทย / ทะเลอบหม้อดิน / ซีฟู้ดผัดซอสเอ็กซ์โอ และอีกหลายรายการ อร่อยๆ ทั้งนั้น

จากนั้นเราเดินทางมุ่งหน้าสู่ Chatrium Hotel Royal Lake Yangon โรงแรมระดับ 5 ดาวในเมืองย่างกุ้ง เราจะพักค้างคืนกันที่นี่ 1 คืน

มาเที่ยวแบบ AIS Trip รู้เลยว่าความสะดวกสบายเป็นอย่างไร เพราะตั้งแต่สนามบิน ลุงเด้ง ป้าไก่ ไม่ต้องลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่เลย มีทีมงานยกไป Check-in แล้วส่งกระเป๋าไปถึงห้องพักในโรงแรมเลย ระหว่างทางเราก็เที่ยวไปเรื่อยๆ ถึงโรงแรมก็มีคน Check-in ให้แล้ว รับกุญแจ แล้วเดินตรงไปที่ห้องนอนได้เลย กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ของเรา รออยู่ที่ห้องพักเรียบร้อยแล้ว

ทุกวันจะมีของเซอร์ไพรส์ ในห้องพัก วันแรก ทีมงานนำผ้าโสร่ง มาวางในห้องพักก่อนที่เราจะเดินทางมาถึงที่ห้อง เพื่อให้เราใส่เดินเที่ยวในพม่าแบบคนพื้นเมือง

"เอไอเอส ขอมอบผ้าพื้นเมืองให้ท่านสวมใส่ เพื่อสักการะ พระมหาเจดีย์ชเวดากอง 1 ใน 5 มหาบูชาสถานแห่งประเทศพม่า"

วันนี้ป้าไก่ ก็เลยแต่งแบบสาวพม่า และเดินทางไปสักการะ
พระมหาเจดีย์ชเวดากอง 1 ใน 5 มหาบูชาสถานแห่งประเทศพม่า

พระมหาเจดีย์ชเวดากอง มีความสูงประมาณ 109 เมตร รอบฐานพระมหาเจดีย์รายล้อมไปด้วยเจดีย์องค์เล็กๆ อีกร้อยองค์ มีซุ้มประตูสี่ด้าน บนยอดฉัตรองค์พระมหาเจดีย์ ประกอบด้วยเพชรและพลอยมากมาย

ว่ากันว่า... พระมหากษัตริย์มอญคือ พระเจ้าโอกะลาปะ ทรงเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา จึงได้ทรงก่อสร้างองค์พระเจดีย์ชเวดากองขึ้นมาเมื่อกว่า 2000 ปีมาแล้ว

ต่อมาพระมหากษัตริย์มอญและพม่าแทบทุกพระองค์ได้ถือเป็นพระราชภารกิจในการก่อเสริมองค์พระเจดีย์ให้สูงใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันมีความสูงถึง 326 ฟุต กว้าง 1355 ฟุต

โดยเฉพาะในสมัยพระนางซินสอบู หรือ นางพระยาตะละแม่ท้าวเจ้า กษัตรีมอญผู้ครองเมืองหงสาวดี ได้ทรงริเริ่มธรรมเนียมบริจาคทองคำเท่าน้ำหนักพระองค์เองในการบูรณะพระมหาเจดีย์ นับตั้งแต่ทรงขึ้นครองราชย์ในปี พ.ศ.1996 (ตรงกับสมัยสมเด็จพระบรมไตยโลกนาถแห่งกรุงศรีอยุธยา) จนกลายเป็นพระราชพิธีที่ปฎิบัติสืบต่อกันมา

เชื่อกันว่าภายในองค์พระมหาเจดีย์บรรจุ เส้นพระเกศาธาตุ ของพระพุทธเจ้าจำนวน 8 เส้น พุทธสถานแห่งนี้ยังคงเป็นที่พึ่งทางใจของคนพม่าทุกชั้นวรรณะทุกเพศทุกวัย

อาหารมื้อค่ำของวันนี้ เรามาที่ร้าน Le Planteur เป็นร้านอาหารฝรั่งเศษที่ดีที่สุดในย่างกุ้ง หรืออาจจะเรียกได้ว่าดีที่สุดในประเทศพม่าก็ว่าได้

มื้อค่ำของคณะของเราได้รับเกียรติจาก คุณพิษณุ สุวรรณะชฎ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงย่างกุ้ง เดินทางมาร่วมรับประทานอาหาร และทักทายคณะของเราอย่างเป็นกันเอง

มื้อนี้ทาง AIS จัดให้อย่างเต็มที่ เป็น 4 full course dinner  เริ่มต้นที่
Starter : Cappuccino of Carrot Soup with Kafir Lime and Roasted Giant Prawns, Ginger and Honey

Appetizer : Roasted Giant Prawns on Hummus with Dukka Nuts and Coriander-Yoghurt

Main Courses : Tajima Wagyu Beef with Granishing (จานนี้เด็ดที่สุดเลยครับ เป็นเนื้อ Tajima ชั้นดี ความสุกระดับ Medium จัดจานมาสวยงาม รสชาติก็ดีมากด้วยเช่นกัน) สำหรับคนที่ไม่กินเนื้อ ก็สามารถเลือกเป็นเมนูปลาแซลมอน หรือ ไก่ ได้เช่นกัน

Dessert : เมนูขนมหวาน Fried Kachin Pineapple Fresh Vanilla and Shan Tea Ice Cream, Passion Fruit Pearls

วันแรกที่ ย่างกุ้ง ทุกคนอิ่มเอมสำราญกันเต็มที่ กลับมาที่โรงแรม เปิดห้อง ก็เจอ ของที่ระลึกอีก 1 ชิ้น นั้นก็คือ Universal Adapter หัวแปลงปลั๊กไฟ ของ AIS พร้อมกับบัตร พร้อมข้อความน่ารัก วางไว้บนเตียง "วันพรุ่งนี้ ความสุข ความทรงจำดีๆ มากมาย ยังรอให้คุณเก็บกลับบ้าน นอนหลับฝันดีค่ะ"

Day 02 : เรานำกระเป๋าเดินทางมาวางไว้หน้าห้อง แล้วลงมากินอาหารเช้า - จะมีพนักงานมายกกระเป๋าเราไปขึ้นรถ - เรากินอาหารเช้าเสร็จแล้วก็ขึ้นรถออกเดินทางท่องเที่ยวต่อได้ทันที (สะดวกสบายมากๆ งานยกกระเป๋า เราไม่ต้องยกเลยมีทีมงานจัดการให้ทั้งหมด)

อาหารเช้าที่โรงแรมหลากหลายดีมากๆ เน้นความหลากหลายของอาหารเอเชีย แต่อาหารเช้าแบบอเมริกันก็มีให้เลือกเยอะมากเช่นกัน

วันนี้เราเดินทางไปสักการะขอพร องค์เทพทันใจ ที่เชื่อกันว่าขอพรได้เร็วดั่งใจ
พม่าเป็นดินแดนที่ผู้คนมีความศรัทธาในพระพุทธศาสนา
แต่ก็มีความเชื่อเรื่องการบูชาเทพเทวาอารักษ์

เทพทันใจ หรือ นัตโบโบยี ตั้งอยู่ที่ศาลาริมน้ำด้านข้างของเจดีย์โบดาทาวน์ ชาวพม่ามีความเชื่อกันว่า ไม่ว่าจะสร้างเจดีย์ใดๆ ที่ไหนก็ตาม จะต้องมีเทพคอยคุ้มครองดูแลเจดีย์ ซึ่งเจดีย์แห่งนี้ ก็มีเทพทันใจคอยคุ้มครอง เชื่อกันว่าจะทำให้สมปรารถนารวดเร็วทันใจ สมกับคำว่า เทพทันใจ นั่นเอง

วิธีขอพรเทพทันใจ

• เริ่มต้นด้วยการถวายเครื่องสักการะ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะสวดมนต์ให้เรา แล้วถวายเครื่องสักการะ (จะถวายหรือไม่ก็ได้)
• จากนั้นให้นำธนบัตรสองใบออกมาม้วนเป็นรูปกรวยใส่ไหว้ในมือของเทพทันใจ
• เอาหน้าผากแตะไว้ที่ปลายนิ้วท่านแล้วอธิษฐานขอพร
• ดึงธนบัตรใบนึงออกมาเก็บไว้บูชา
• เดินอ้อมไปจับรูปปั้นเทพทันใจรอบๆ รวมถึงจับไม้เท้าท่านด้วย
• เรานำผ้าไปคล้องคอเทพทันใจ
• เจ้าหน้าที่ก็จะเด็ดใบไม้ "ใบชนะ" ที่เราเอามาสักการะให้เราเก็บกลับไปบูชา เป็นอันเสร็จพิธี

จากนั้นเรามาชมพระเกศาธาตุที่ เจดีย์โบดาทาวน์ เล่ากันว่ามีพระสงฆ์แปดรูปอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธองค์มาประดิษฐานไว้ที่นี่ มีนักท่องเที่ยวเข้าชมตลอดวัน

พระเจดีย์โบตะตอง หรือ บางท่านเรียกว่า พระเจดีย์โบดาทาวน์ หมายถึง เจดีย์นายทหาร 1000 นาย ตามตำนานเล่าว่า เมื่อราว 2000 ปีก่อน พระเจ้าโอกะลาปะ กษัตริย์มอญทรงบัญชาให้นายทหารระดับแม่ทัพตั้งแถวถวายสักการะแด่พระเกศาธาตุ ที่นายวาณิชสองพี่น้องอัญเชิญมาทางเรือและมาขึ้นฝั่งที่เมืองตะเกิงหรือดากอง ณ บริเวณนี้ จึงสร้างเจดีย์โบดาทาวน์ไว้เป็นที่ระลึก

พร้อมทั้งแบ่งพระพุทธเกศา 1 เส้น มาบรรจุไว้ จึงเป็นหนึ่งในมหาบูชาสถานของชาวมอญและพม่าเรื่อยมา

จนกระทั่งเกิดสงครามโลกครั้งที่2 เครื่องบินฝ่ายสัมพันธมิตรได้ทิ้งระเบิดถล่มย่างกุ้ง ทำให้เจดีย์โบดาทาวน์องค์เดิมถูกทำลายพินาศ ในระหว่างการบูรณะได้ค้นพบผอบทรงสถูปบรรจุพระเกศาธาตุและพระบรมสารีริกธาตุ ต่อมาจึงได้สร้างเจดีย์องค์ใหม่ แล้วนำพระเกศาธาตุมาบรรจุในมณฑปครอบแก้วใส ประดิษฐาน ณ ใจกลางเจดีย์ และทำช่องทางให้พุทธศาสนิกชนเดินเข้าไปดูและสักการะบูชาได้อย่างใกล้ชิด

ภายในเจดีย์โบดาทาวน์ บุผนังเป็นสีทองสุกอร่าม ผนังบางส่วน ได้นำทองคำและของมีค่าต่างๆ ที่มีพุทธศาสนิกชนชาวพม่านำมาถวายแก่องค์พระเจดีย์ มาจัดแสดงไว้ ของทั้งหมดมีมูลค่าสูงมากจนต้องทำประตูเหล็กกั้นอีก 1 ชั้น

ช่วงบ่ายเรามาแวะกินอาหารกลางวันกันที่ ร้าน Bangkok Kitchen ทริปนี้เน้นกุ้งกันทุกวันเลยครับ

จากนั้นเราเดินทางต่อไปยัง เจดีย์กาบาเอ เพื่อร่วม พิธีครอบเศียร ครอบเกล้า อันศักดิ์สิทธ์เสริมมงคลชีวิตให้สำเร็จ ดั่งใจหวัง ด้วยพระบรมสารีริกธาตุขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ ที่ประดิษฐาน ณ เจดีย์แห่งนี้

พิธีครอบเศียร ครอบเกล้านี้ มีไม่กี่คณะที่มีโอกาสเข้าทำพิธีนี้อันเป็นศิริมงคลแก่ชีวิต และไม่ได้จัดกันง่ายๆ พี่ที่เดินทางมาในคณะบอกว่าเป็นบุญมากที่ได้มาร่วมพิธีนี้

หลังจากอาหารกลางวัน พอจะมีเวลาเหลือ เราจึงมาชมความงามของ วัดพระหินอ่อน Kyauk Taw Gyee Pagoda องค์พระหินอ่อน แห่ง วัดเจ้าดอจี หรือ วัดพระหินอ่อน (Kyauk Taw Gyi marble sitting-Buddha ) เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า ประดิษฐาน "พระหินอ่อน" ใหญ่สุดในพม่า เป็นพระที่สลักด้วยหินอ่อนก้อนเดียวทั้งองค์และมีขนาดใหญ่ที่สุดในพม่า สีขาวสะอาดและไม่มีตำหนิ สูง 37 ฟุต กว้าง 24 ฟุต หนัก 60 ตัน สร้างและแกะสลักโดยช่างที่ดีสุดในมัณฑะเลย์

พระหินอ่อน เป็นพระพุทธรูปประทับนั่ง พระหัตถ์ขวาบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจาก
สิงคโปร์และศรีลังกา ยกฝ่าพระหัตถ์หันออกจากองค์ หมายถึง การไล่ศัตรูและประทานความเจริญรุ่งเรือง

นอกจากนี้ยังมีการนำหินที่เหลือมาสลักเป็นพระพุทธบาท ซ้าย-ขวา ประดิษฐานอยู่ บริเวณด้านหลังพระพุทธรูปด้วย พระหินอ่อนตั้งอยู่ในห้องกระจกแก้วเพื่อเป็นการควบคุมอุณหภูมิ ไว้เพื่อป้องกันการเสียหายของหินอ่อนจากการเปลี่ยนแปลงของอากาศ

ช่วงบ่ายเรานั่งเครื่องจาก ย่างกุ้ง มุ่งหน้าสู่เมืองพุกาม โดยสายการบิน Maam Yadanarpon Airlines สายการบินของพม่า เครื่องเล็กแต่บริการดีเกินคาด พนักงานต้อนรับบนเครื่องภาษาอังกฤษดีมากๆ

เครื่องลงจอดที่สนามบินยวงอู เมืองพุกาม ดินแดนแห่งทะเลเจดีย์ มีประวัติยาวนานกว่า 200 ปี อาณาจักรแห่งแรก ในประวัติศาสตร์พม่า เราแวะกินอาหารเย็น แล้วเดินทางเข้าพักที่โรงแรมออเรี่ยม พาเลซ โอเต็ล เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวที่ดีที่สุดใน พุกาม และมาสามารถมองเห็นทะเลเจดีย์ ได้จากโรงแรมกันเลย

เช่นเคย... เราไม่ต้องยกกระเป๋าเอง เพราะทีมงานนำกระเป๋าเดินทางของเรามาส่งถึงในห้องนอนเป็นที่เรียบร้อย และเช่นเดิมทันทีที่เข้าไปในห้องเราก็จะได้รับของที่ระลึกจาก AIS วางอยู่บนเตียง

" ชาร์จพลังกายและใจให้พร้อมรับประสบการณ์ดีๆ ในวันรุ่งขึ้น นอนหลับฝันดีค่ะ..."

AIS Trip : ย่างกุ้ง-พุกาม-มัณฑะเลย์ กิน-เที่ยวสุดหรู ตอน 1
https://www.uncledeng.com/portfolio-view/ais-myanmar-01

AIS Trip : ย่างกุ้ง-พุกาม-มัณฑะเลย์ กิน-เที่ยวสุดหรู ตอน 2
https://www.uncledeng.com/portfolio-view/ais-myanmar-02

AIS Trip : ย่างกุ้ง-พุกาม-มัณฑะเลย์ กิน-เที่ยวสุดหรู (Virtual Tour 360 องศา)
https://www.uncledeng.com/portfolio-view/ais-myanmar-03