fbpx

5 จังหวัด ที่ต้องไป หลังล็อกดาวน์

5 จังหวัด ที่ต้องไป หลังล็อกดาวน์

เบื่ออยู่บ้าน : เตรียมออกเที่ยว หลังล็อกดาวน์

5 จังหวัดน่าเที่ยว ในประเทศไทย

เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงเบื่อกับการอยู่บ้านเต็มทนแล้ว รอวันเที่ยวและออกข้างนอกกันไม่ไหว  ว่าแต่มีลิสต์สถานที่เที่ยวหลังคลายล็อกดาวน์กันหรือยัง ? ถ้ายังไม่มีละก็ วันนี้เราจะพาคุณไปดู 5 จังหวัดน่าเที่ยวที่สุดในประเทศไทย ยิ่งเป็นช่วงหลังคลายล็อกดาวน์ยิ่งควรไป เพราะอะไรน่ะเหรอ ? เพราะสถานที่ที่เราจะพาคุณไปนั้น เป็นสถานีที่ที่สามารถฟื้นฟูสภาวะจิตใจและร่างกายของคุณให้กลับมาสดชื่นและสดใสได้เหมือนเดิม และแน่นอนเรากำลังพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ ที่เต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียวล้อมรอบ มีลัดพัดเย็นชื่นใจ พร้อมกับการผจญภัยครั้งใหม่หลังจากการเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน พร้อมไปสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอดกันหรือยัง ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกัน

แต่เดี๋ยวก่อน!

ก่อนจะไปเช็คสัมภาระและของจำเป็นให้ถี่ถ้วน อุปกรณ์ถ่ายรูปต้องพร้อม เสื้อผ้าและของใช้จำเป็นก็ต้องเตรียม และขาดไม่ได้รองเท้าที่เหมาะสมกับทริปเดินทาง ครั้งนี้เราไปทริปลุยธรรมชาติ อย่าลืมเลือกรองเท้าที่ใส่สบายเท้าที่สุดไปด้วยอย่าง รองเท้า Adidas ส่วมใส่สบายเท้า มีน้ำหนักเบา แถมยังทนทานและไม่กัดเท้าอีกด้วย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเดินทางลุย ๆ แบบนี้ เอาล่ะ เมื่อเช็คสัมภาระทุกอย่างครบแล้ว เราไปลุยเที่ยวแต่ละจังหวัดกันเลย

 

TOP 5

จังหวัดน่าเที่ยว ในประเทศไทย

 

1. จังหวัดเชียงราย

มาเริ่มกันที่ภาคเหนือกันก่อนเลยนั่นก็คือ จังหวัดเชียงราย มาจังหวัดนี้แล้วต้องไม่พลาดกับการเดินทางขึ้นดอยมาที่ภูชี้ฟ้า เพราะที่นี่เป็นบริเวณคุณจะได้เห็นกับทะเลหมอกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทยที่ติดกับชายแดนไทย-ลาว มีความโดดเด่นของหน้าผาภูเขาที่พุ่งตรงเป็แนวยาวชี้ไปทางฟากฟ้า เมื่อมองไปรอบข้างจะเห็นวิวทิวทัศน์เทือกเขาผาหม่นที่สวยงาม ให้บรรยากาศที่เงียบสงบในสภาพอากาศที่หนาวเย็นถึงใจ เหมาะมากสำหรับการมารีเฟรชตัวเองเป็นที่แรก แต่อย่าลืมนะ หลังลงดอยมาแล้ว ต้องไปนั่งจิบชาที่ดีที่ของประเทศไทยที่ไร่ชาฉุยฟงกันด้วย เพราะคุณจะได้สัมผัสกับไร่ชาที่กว้างขวางดูสวยงาม เหมาะกับการนั่งชิลล์ ถ่ายรูปเล่น สัมผัสกับสวนไร่ชาแบบใกล้ชิด พร้อมกับนั่งกินของอร่อย ๆ ก่อนออกเดินทางกันไปสถานที่ถัดไป

 

2. จังหวัดเชียงใหม่

ยังอยู่กับที่ภาคเหนือกับอีกจังหวัดที่น่าไปที่สุดของประเทศไทยอย่าง จังหวัดเชียงใหม่ ที่นี่มีอากาศที่เย็นสบาย ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติอันสวยงาม เช่น อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ภายในมีพื้นที่กว้างขวางและมีสถานที่ท่องเที่ยวอยู่มากมาย เช่น น้ำตกสิริภูมิ น้ำตกแม่กลาง เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน และที่ขึ้นชื่อที่สุดก็คือ ซารุกะเมืองไทย ซึ่งจะมีดอกไม้สีชมพูผลิบานสะพรั่งเต็มดอย เหมือนอยู่ประเทศญี่ปุ่นเลย เมื่อเยี่ยมชมธรรมชาติแบบเต็มอิ่มบนดอยแล้ว อย่าพลาดกับการมาสัมผัสสัตว์ประจำชาติของไทยเรา อย่างการเล่นกับน้องช้างที่ปางช้าง เชียงใหม่ คุณจะได้ทำกิจกรรมกับช้างสนุก ๆ แบบกันเองและใกล้ชิดกันแบบสุด ๆ เช่น ขี่ช้างชมผืนป่า ให้อาหารช้าง เล่นน้ำกับช้าง และถ่ายรูปเล่นกับน้อง รับรองว่าอิ่มอกอิ่มใจกันแน่นอน

 

3. จังหวัดกาญจนบุรี

ต่อมาคือจังหวัดที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม จังหวัดกาญจนบุรี เป็นจังหวัดนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติขึ้นชื่อมากมาย เช่น น้ำตกเอราวัณ น้ำตกที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสววรค์ชั้น 7 เพราะมีธารน้ำที่ใสสะอาดเป็นสีเขียวอมฟ้า มีภูเขาหินปูนสีขาวเรียงกันเป็นชั้น ๆ อย่างสวยงาม จึงไม่แปลกที่นักท่องเที่ยวทั้งในไทยและต่างประเทศจะมากันเยอะ และอีกสถานที่หนึ่งที่ไม่ไปถือว่าพลาดมากนั่นก็คือ บ้านปิล็อกหรือหมู่บ้านอีต่อง เดิมทีเคยเป็นเหมืองสมศักดิ์มาก่อน ก่อนจะกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวจนถึงทุกวันนี้ คุณจะไปสัมผัสกับวิถีชาวบ้านบนเขาที่อยู่ติดกับชายแดนไทย-พม่า สัมผัสกับวิวธรรมชาติอันเงียบสงบ มีทะเลหมอกในยามเช้า มีลมพัดเย็นตลอดทั้งวัน และยังสามารถเยี่ยมชมเหมืองเก่าได้อีกด้วย ถือว่าคุ้มทั้งบรรยากาศและการเปิดวิสัยทัศน์เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้ดีมาก

 

4. จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ลงใต้กันบ้างกับอีกหนึ่งจังหวัดที่น่าไปที่สุดอย่าง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในจังหวัดมีอัญมณีแห่งธรรมชาติให้คุณต้องทึ่งมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เขื่อนเชี่ยวหลาน เป็นเขื่อนขนาดใหญ่กินอาณาเขตมากกว่า 500 ไร่ เต็มไปด้วยภูเขาและชะง่อนผาหินปูน มีจุดไฮไลท์เป็นกุ้ยหลินเมืองไทย ถ้าคุณได้มาแล้ว เรารับประกันได้ถึงบรรยากาศอันเงียบสงบ ให้คุณดื่มดำกับความสวยงามของธรรมชาติอย่างเต็มอิ่มโดยการดำน้ำดูฝูงปลาและปะรารัง หรือการพายเรือคายัคชิลล์ ๆ พร้อมกับการนอนพักข้ามคืนในที่พักเก๋ ๆ กลางเขื่อนอย่างสบายใจ และอีกหนึ่งสถานที่ยอดฮิตของจังหวัดที่คุณไม่ควรพลาดเลยก็คือ เกาะสมุย ที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติทั้งหาดทราย ทะเลน้ำใส เป็นสววรค์แห่งอ่าวไทย หากมีโอกาสก็ควรมาสักครั้งในชีวิตจริง ๆ

 

5. จังหวัดยะลา

ลงดินแดนใต้สุดของสยามกับเสน่ห์ปลายด้ามขวานของไทยอย่าง จังหวัดยะลา  ใครที่ยังไม่เคยสัมผัสผืนป่าดิบชื้นที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทยต้องมา ป่าฮาลาบาลา ซึ่งได้รับฉายาว่าเป็น Amazon of Asia ในป่านี้คุณสามารถมาตั้งแคมป์ชมผืนป่าได้แบบเต็ม ๆ ทั้งการนั่งชมวิวอันเงียบสงบเสมือนหลุดไปอีกโลกนึ่ง แถมยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจหลายอย่าง เช่น การล่องเรือชมเขื่อนบางลาง การเยี่ยมชมสัตว์ป่าหายากและสัตว์สงวนอย่าง นกเงือก สมเสร็จ เลียงผา กระทิง ฯลฯ

รวมไปถึงการเดินป่าขึ้นเขาเพื่อดูทะเลหมอก แต่ถ้าคุณเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทางมากแต่ยังอยากชมวิวทะเลหมอกแบบ 360 องศาแล้วละก็ ต้องมา Skywalk อัยเยอร์เวง จุดไฮไลท์ของเมืองเบตง โดยมีสกายวอล์คแบบกระจกในระดับความสูงกว่า 2,038 ฟุต ให้คุณได้สัมผัสกับความตื่นตาและตื่นใจเสหมือนกับคุณกำลังยืนอยู่บนก้อนเมฆบนฟากฟ้าเลยทีเดียว


สุด ๆ และเต็มอิ่มกันไปเลยใช่ไหมกับแต่ละจังหวัด มีแต่กิจกรรมน่าทำทั้งนั้นเลย ถือว่าเป็นการชดเชยเวลาในช่วงล็อกดาวน์ที่ทำให้เราต้องอุดอู้อยู่แต่ในบ้าน หากคุณมีแผนเที่ยวเร็ว ๆ นี้ ต้องไม่พลาดกับสถานที่ที่เราแนะนำไปเลยล่ะ รับรองว่าคุณจะกลับมามีแรงและกะจิตกะใจในการกลับมาเป็นคนที่สดใสเหมือนเดิมแน่นอน

 




Leave a comment